นช.๐๐๗ เรื่อง
วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงธน ปัจจุบันเดินทางสะดวก ตั้งอยู่ปากซอยเพชรเกษม 98 ไปมาได้หลายทาง แต่เมื่อย้อนหลังกลับไปร่วม 30 ปีที่นี่... ดร.อินทร์ จันทร์เจริญ ผู้รับใบอนุญาต เล่าอดีตให้ฟัง
“ผมซื้อที่นี่ เอาแฟนมาดู แฟนเป็นลม เวลานั้นถนน 2 ถนน หน้าโรงเรียนเป็นป่ากก ป่าพง มีถนนแค่ 2 เลน รถวิ่งสวนกัน ไม่เจริญเลย”…ผู้อาวุโสบุคลิกกระชับกระเชงที่ดูอ่อนกว่าชายวัย 70 ปี เล่าที่มาถึงธุรกิจอาชีวศึกษาด้วยความภูมิใจ
นั่นเป็นภาพในอดีต...แต่ภาพที่เห็นขณะนี้บริเวณเลขที่ 1 ซอยเพชรเกษม 98 ถนนเพชรเกษม เป็นอาคาร 3 เรียนที่ประกบข้างด้วยคอนโดมีเนียมเบรนหรูเลี้ยวเข้าซอยนิดเดียวบนถนนเพชรเกษม 6 เลน ที่จราจรคับคั่ง
ครูอินทร์ จันทร์เจริญในอดีตผู้นี้คือครูอาชีวศึกษาเอกชนหลายโรงเรียน เช่น พณิชยการธุรกิจบัณฑิตย์ ไทยโปลีเทคนิค บางเขน ดรุณพิทยาพณิชยการ ห้วยขวาง ก่อนจะผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธนกรุงเทพ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธนเชียงราย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลบุรีชัยรัตน์ คอนสตรัคชั่น จำกัด อธิการบดีวิทยาลัยเชียงราย อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่ง สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย
ปัจจุบันเรียกครูอินทร์ กลายเป็น ดร.อินทร์ ด้วยคุณวุฒิปริญญาเอก ค.ด. สาขาวิจัยและพัฒนาหลักสูตร จาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
...ครั้งแรกของการเป็นครูอาชีวศึกษาเอกชนหลังจากเรียนจบครูมาคือการเป็นครูสอนคณิตศาสตร์
ปูมหลังครูใหญ่อาชีวศึกษาไทย
“ชีวิตผมเข้าสู่ชีวิตความเป็นครูอาชีวศึกษา เริ่มตั้งแต่เรียนจบครูมาท่านไสว สุทธิพิทักษ์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ พอท่านทำธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นหลักสูตรสถาบันท่านชวนผมไปทำงานด้วย
ผมก็ไปทำงานกับท่าน เริ่มต้นอยู่ที่อาชีวศึกษา ผมก็ทำอาชีวศึกษามาโดยตลอดชีวิต ทุกวันนนี้ก็ทำอาชีวศึกษาอยู่
ที่ทำมาตลอดได้ก็ต้องขอบคุณท่านอธิการไสว ท่านให้ความรู้ เพราะทำโรงเรียนกับท่านที่ธุรกิจบัณฑิตย์ที่คลองประปานี่แหละครับ ! ท่านไปเปิด ปวช. ก็ไปเปิดช่วยสอน”
หลังออกจากพณิชยการธุรกิจบัณฑิตย์ ก็มาอยู่ที่ดรุณพิทยาพาณิชยการ จากดรุณพิทยไปอยู่โปลีเทคนิค จากไทยโปลีเทคเนคไปอยู่ดรุณอีกที จนปี 2524 ก็ทำโรงเรียนเอง
ชีวิตคือการต่อสู้ : ต่อสู้กับสิ่งที่เราจัดเจน
ด้วยปรัชญาในการทำงาน ชีวิตคือการต่อสู้ ยิ่งมีปัญหาเรายิ่งสู้ การเริ่มต้นกิจการโรงเรียนอาชีวะเองเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้
“การต่อสู้ที่หนักที่สุดคือ การสร้างรากฐานชีวิต ผมซื้อที่นี่ 11ล้าน ใน พ.ศ.2519”
พร้อมกล่าวถึงบุคคลที่มีบุญคุณ เคยอุปการะในอดีตที่ดร.อินทร์ยังกล่าวถึงไม่เคยลืม
“ผมอาจจะโชคดีกว่าคนอื่น ผมอยากเจอใครผมได้เจอ ความสำเร็จที่ได้มา ก็คิดถึงผู้มีบุญคุณ คือ พี่ณรงค์ เทวคุปต์ (อดีตกรรมการบริหารวิทยาลัยในเครือตั้งตรงจิตรพณิชยการ อดีตส.ส. อุบลราชธานี 2 สมัย) พี่ยิ่ง สิทธิธรรม (อดีต สส.อุบลราชธานี) ทั้งสองท่านพาผมเข้าพบ อาจารย์ประยูร จินดาประดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ ทหารไทย ขณะนั้นท่าน เปรียบเหมือนพ่อขอผมคนหนึ่ง ผมไปเอาโครงการไปคุยกับท่านน่าบอกเอายื่นมาจะดูให้”
กิจการสถาบันศึกษาอาชีวเอกชน ก็เริ่มต้นขึ้น
“ก็ใช้ชื่อเดิมตลอดเพียงแต่เปลี่ยนชื่อหน้าเป็นวิทยาลัยเท่านั้น โรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธน แต่ผมมาเปลี่ยนเรื่องของที่ตั้งพระวิษณุ กิจการตอนแรกหนักหนาสาหัสมาก เราคิดว่ารับเด็กได้ 400 คน แต่รับเด็กไม่ถึง 200 คน ...การรับสถานการณ์เล่านี้ เราต้องประมาณตัวเองถึงจะแข็งแรงได้...สมมุติว่าเรามีเด็กเท่านี้เราก็บริหารเท่านี้ไม่บริหารเกินตัว แต่คิดเกินตัว แต่บริหารภายใต้ความจริง"
นอกจากประเมินตัวเองแล้วปัจจัยที่จะทำให้ความสำเร็จเกิดขึ้นได้เราต้องเข้าใจในสิ่งที่เราทำอย่างลึกซึ้ง
“ทำสิ่งที่เรารู้ ทำส่ิงที่เรามีพรรคพวก เรามีความจัดเจน อย่าเป็นประเภทที่พอรวยแล้วไปทำอาชีพอะไรก็ได้ อื่นนี่ไม่ได้ บางคนโชคดีก็สำเร็จ บางคนเจ็งเลย ต้องทำสิ่งที่เรารู้ รู้แจ้งเลย มีปัญหาแก้ไขได้ด้วยความมั่นใจ”
เคล็ดลับของความสำเร็จสถานศึกษาในเครือ k-tech
ปัจจุบัน ดร.อินทร์ จันทร์เจริญ เป็นผู้ถือใบอนุญาต วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงธน (Krungthon technological college) ทั้งกรุงเทพ และ เชียงราย พร้อมทั้งมหาวิทยาลัยเชียงราย เปิดทำการสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาช่างอุตสาหกรรม และบริหารธุรกิจ และเปิดทำการสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาวิชาช่างอุตสาหกรรมและบริหารธุรกิจ สาขาวิชาที่เปิดสอน ช่างอุตสาหกรรม ได้แก่ ช่างยนต์ ช่างกลโรงงาน ช่างไฟฟ้ากำลังและช่างอิเล็กทรอนิกส์ สาขาวิชา ที่เปิดสอนบริหารธุรกิจ ได้แก่ การบัญชี คอมพิวเตอร์ และการตลาด
เคล็ดลับของความสำเร็จที่ได้จากการสนทนาร่วมชั่วโมง คือ
1 สร้างคุณลักษณ์ที่เหมาะสมแก่นักเรียนอาชีวศึกษา ให้นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียน มีทักษะ ความสามารถ ในการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
“เน้นเรื่องความซื่อสัตย์ ตรงเวลาขยัน ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน คนเราถ้ามีความซื่อสัตย์ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ผมบอกเลยว่าอยู่ที่ไหนนายก็รัก เราเป็นลูกน้องนายก็รัก”
2 ผู้บริหารต้องเอาใจใส่ต่อนักศึกษาในวิทยาลัย
“ในอดีตมีปัญหาการตีกันโรงเรียนเทคโนโลยีกรุงธนกับโรงเรียนเทคโนโลยีหมู่บ้านครูใกล้ ๆ กัน แต่ก่อนขึ้นรถคันเดียวกันไม่ได้ตีกัน ...พอมาปี 2524 ผมเข้ามาซื้อที่นี่ผมไปหาอาจารย์ศุภชัย แย้มชุติ (ผอ.เทคโนโลยีหมู่บ้านครู) ผมบอกว่าป๋าทำอย่างไรเราจับมือกัน มีอะไรบอกกันช่วยกันแก้ เป็นโรงเรียนพี่ โรงเรียนน้อง...เหล่านี้ทำไมมันแก้ได้ละ ที่อ้างว่าทัศนคติไม่ดีต่อกันนี่เป็นข้ออ้างจริง ๆ แล้วเพราะผู้บริหารไม่ใส่ใจ ถ้าผู้บริหารเอาใจใส่กับพฤติกรรมของเด็กดูแลเด็กเรื่องเด็กตีกันจะไม่มี เรื่องมันเกิดออาจะผิดใจกันแต่ก็ทำความเข้าใจกันได้”
3 อุปกรณ์ฝึกดีทันสมัยมีให้นักเรียนใช้
“ สำหรับนักเรียนช่างแต่เราซื้อวัสดุของดีทันสมัย อย่างเวอร์เนียร์ (เครื่องมือสำหรับใช้ในงานวัดละเอียดแบบหนึ่ง) นี่เราก็เลือกของดี ผมไม่เคยคิดจะไปหากิน กินเล็กกินน้อยกับเด็ก ผมซื้อให้เต็มที่เด็กจบไปเขาได้ทำงาน เมื่อมีลูกเขาก็คิดถึงเรา ไม่ว่าโรงเรียนรัฐและเอกชนไม่ต้องมอง เขาก็คิดถึงวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงธน บ้านอยู่ไกลแค่ไหนก็ส่งมาเรียน”
ปัจจัยทำทั้งหมดแล้วส่งผลให้นักเรียนเข้ามาเรียน ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงธน
"นักเรียนในโรงเรียนมีพาณิชย์และช่างที่กรุงเทพตอนนี้ 1,000 คน การหาเด็กเข้าเรียนอยู่ที่ศิษย์เก่า ศิษย์เก่าบางคนเอาลูกมาเรียน เหมือนเครือข่ายศิษย์เก่าปี หนึ่ง ๆ เยอะ เป็นแบบปากต่อปาก แต่การแนะแนว เราก็ยังทำ ก็ในบริเวณของเราในเขตฝั่งธนบุรีนี่แหละ อยู่แต่นี้ แต่ก็มีนอกเขตมาบ้าง ไม่มีมาก...”
สุดท้ายของการสนทนาอดีตนายกสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย กล่าวเปื้อนด้วยรวยยิ้มก่อนอำลา
“ผมทำงานด้านอาชีวศึกษามาทั้งชีวิต ...จะว่าเหนื่อยไม่ผมก็ว่าไม่เหนื่อยนะ เป็นความสุข ผมอาจจะต่างจากคนอื่นคือมีความสุขในการทำงาน
ผมมีลูก 3 คน ผู้หญิง 1 ชาย 2 ลูกสาวบริหารที่นี่ ผู้ชาย 2 คน ลูกชายคนกลางดูอาชีวศึกษาเชียง ส่วนลูกชายคนเล็กก็ดูวิทยาลัยเซียงราย
การทำมาธุรกิจการศึกษา โดยเฉพาะอาชีวศึกษา ถึงเวลานี้แล้วผมคิดว่าคิดถูกนะ...”